Once in a lifetime@Maldives : รีวิว ห้องอาหารใต้น้ำ Ithaa Restaurant

กระทู้ก่อนหน้าที่เราเขียนเกี่ยวกับมัลดีฟส์ ตามไปดูที่ Link ด้านล่างได้เลย

ส่วนโพสนี้เราจะมาพูดถึงห้องอาหารใต้น้ำที่มัลดีฟส์กัน การได้มากินห้องอาหารใต้น้ำที่มัลดีฟส์เป็นหนึ่งใน wish list ที่เราต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกมาพักที่ Conrad Rangali Resort n Spa

ตอนแรกที่มาก็มีลังเลอยู่บ้างว่าจะเสียค่ากินข้าวมื้อละเป็นหมื่นเลยเหรอ แต่สุดท้ายก็ยอม เพราะว่าเราไม่ได้มาเที่ยวมัลดีฟส์บ่อยๆ ไหนก็มาแล้วก็ต้องลอง และก็ไม่เสียใจเลย มันคุ้มค่ามาก

ถ้าจะมาใช้บริการ Ithaa Undersea Restaurant แนะนำว่าให้จองมาล่วงหน้า เพราะว่าที่นั่งจะมีแค่ 8 โต๊ะ ต่อมื้อเท่านั้น สำหรับคนที่จะพาเด็กมาด้วย เค้าจะอนุญาตให้เด็กเข้ามาใช้บริการแค่ Lunch เท่านั้น ส่วน Dinner จะไม่อนุญาตให้เด็กมาใช้บริการ

ค่าบริการสำหรับ Ithaa Undersea Restaurant

Lunch $210 + 10% Service Charge + 12% T-GST
Dinner $325 + 10% Service Charge + 12% T-GST

** ราคานี้รวมเครื่องดิ่มแล้วนะจ๊ะ

การแต่งกาย มีกำหนดไว้ว่าเป็นแบบ Smart Casual เค้าจะระบุไว้ตอนจองเลย

เราจองแบบ Lunch ไป เพราะอยากได้บรรยากาศถ่ายรูปแบบสว่างๆ แต่ขอบอกว่าร้อนมากมาย แนะนำว่าให้เตรียมแว่นกันแดดลงไปด้วย เพราะว่าแสงมันจ้ามาก

Ithaa Undersea Restaurant จะอยู่ฝั่ง Main Island โดยต้องเดินผ่านห้องอาหาร Sunset Bar & Grill เข้าไป โดยตัวห้องอาหารจะอยู่ลึกลงไปในทะลประมาณ 5 เมตร ซึ่งถ้าเราอยู่ด้านบนจะสามารถมองลงไปเห็นห้องอาหารได้แบบลางๆ เวลาเปิดจะให้เข้าพร้อมกันคือประมาณ 12.30 น. ถ้ามาถึงก่อนก็จะไปนั่งเล่นที่ Sunset Bar & Grill ก่อนก็ได้

มุมจาก Sunset Bar & Grill ที่จะมองไปเห็น Ithaa Undersea Restaurant

เห็นเงาลางๆ เป็นแท่งๆ อันนั้นคือส่วนของห้องอาหาร ที่มีปลาว่ายวนเวียนอยู่เต็มไปหมด ร้อนไหมถามใจเธอดู เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ใต้ทะเลที่มีแดดส่อง ถึงบอกไง ว่าให้พกแว่นกันแดดไปด้วย

ทางลงของ Ithaa Undersea Restaurant จะเป็นบันไดวนลงไปที่ปล่องใต้ทะเล

บรรยากาศด้านในห้องอาหาร ห้องจะมีลักษณะเป็นโดมแก้วครึ่งวงกลม กระจกใส เป็นกระจกเต็มๆ เกือบทั้งหมด ชมวิวได้แบบเต็มที่ไม่มีอะไรมาบดบัง

อยากบอกว่าชอบมาก!!! เหมือนได้นั่งกินข้าวอยู่ในอะควาเรี่ยม มีฝูงปลาเยอะแยะมากมายว่ายล้อมเราอยู่ แต่ที่นี่อาจจะเปิดมานาน บางที่นั่งกระจกขุ่นเชียว น่าจะให้คนลงไปเช็ดซะหน่อย :p

วันที่ไปฟ้าฝนเป็นใจมาก วันก่อนหน้าที่จะไปกินมีฝนตก ทำให้ฟ้าปิด แต่พอวันที่เราไปอากาศสดใส ฟ้าเปิด แดดแรง น้ำทะเลใส เห็นตัวปลาแหวกว่ายอย่างชัดเจน โชคดีจริงๆ

ระหว่างรอเตรียมอาหาร ก็จะมีขนมปังหลายแบบเสิร์ฟพร้อมกับเนยเค็ม

มาแล้ว….อาหารจานแรก สลัดผักที่ทานคู่กับกุ้ง Lobster เนื้อแน่นและนุ่ม เป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีจริงๆ

จานต่อมาเป็นซุปมิโสะหมึกปลาหมึก เสิร์ฟพร้อมกับหอยนางรมสดและไข่นกกระทา ซุปมิโสะอร่อยแปลกดี ตอนแรกก็นึกว่าหมึกปลาหมึกจะคาวๆ หน่อย แต่อันนี้ไม่คาวเลย หอยนางรมก็สดมาก เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ

สำหรับ Main Course ตามเมนูจะเป็นเมนูไก่ แต่เราสามารถเพิ่ม 40 USD เพื่อเป็น Charcoaled Reef Lobster ได้ .. ไหนๆก็มาอยู่ทะเลแล้ว ก็ต้องกิน Lobster สิ มาถึงแหล่งแล้ว แล้วก็ไม่ผิดหวัง Lobster ตัวใหญ่มากกกก กินอิ่มแล้วยังไม่หมดตัวเลย

เนื้อกุ้งล๊อบสเตอร์ส่วนแรกจะเสียบไม้ย่างมา เนื้อแน่น สดมาก อีกส่วนจะย่างมาแล้วราดด้วยซอส บีบมะนาวลงไปนิดๆ แก้เลี่ยนได้ดี คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มมาจริงๆ

A whole Maldivian lobster gratinated with saffron and esplette chili hollandaise, Served with smoked avocado mash, corn tiles and beetroot tortellini

ปิดท้ายด้วยของหวานเป็นชีสเค้กฟักทอง ฟังตอนแรกก็คิดว่ามันเข้ากันเหรอ มันจะอร่อยเหรอ … พอลองกิน เออ อร่อยวุ๊ย ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเข้ากัน หอมครีมชีส และก็ไม่หวานมากเกินไป อยากจะขอต่ออีกจานเลย

ก่อนกลับมีช็อคโกแลตโรยด้วย Sea Salt ตัดความเลี่ยนให้ได้กิน

เก็บภาพก่อนกลับบ้าน แดดก็ยังคงแรงอยู่แม้ว่าจะเกือบบ่ายสองแล้ว ราคาของการมากินอาหารที่นี่อาจจะแพงไปซักนิด รวมๆแล้วตกคนละ 320 USD หรือประมาณคนละ 12,000 บาท แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ครั้งนึงในชีวิตได้มาลองกินอาหารใต้น้ำแบบนี้ เราไม่ได้มามัลดีฟส์กันบ่อยๆ เนอะๆๆ ให้กำลังใจตัวเอง ชีวิตมีก็ใช้ซะให้คุ้ม