ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่เป็นหนึ่งใน Wishlist ของใครหลายคน แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าครองชีพที่ถือว่าแพงประเทศนึงในยุโรป ถ้าไม่นับรวมประเทศในแทบสแกนดิเนเวีย

ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าการเดินทาง ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว แต่เพื่อแลกกับการได้เที่ยวประเทศที่สวยงามแบบนี้ ก็คงต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต

มาลองดูกันว่าค่าใช้จ่ายสำหรับทริปสวิสมีอะไรบ้าง เผื่อเป็น guideline ให้เพื่อนๆ จะได้คำนวนค่าใช้จ่ายได้ถูก
ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปสวิส หลักๆ ก็คงจะเป็น
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน
2. ค่าขอวีซ่า
3. ค่าประกันการเดินทาง
4. ค่าเดินทางในสวิส : Swiss Pass
5. ค่าโรงแรม
6. ค่าอาหาร
7. ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

แต่สำหรับทริปนี้ของเราเนื่องจากว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่เรามาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เรามาให้ข้อมูลทั่วๆไปของบ้านเราก่อน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เรามาแชร์อาจจะแตกต่างกับทริปของคนอื่นๆ แต่เอาไว้เป็นแนวทางได้

สมาชิกสำหรับทริปนี้ มี 3 คนพ่อแม่ และลูกชายวัย 5 ขวบ

สำหรับการเดินทางของเด็กน้อย 5 ขวบ บางสถานที่ท่องเที่ยวจะยังไม่เก็บเด็กที่อายุไม่ถึง 6 ขวบ ส่วนมากอายุที่จะเสียค่าบริการสำหรับเด็กที่สวิตเซอร์แลนด์จะเริ่มต้นที่ 6 ขวบ แต่ก็มีบ้างที่จะเก็บเด็ก แต่ถือได้ว่าน้อยมาก Swiss Travel Pass ถ้าเดินทางพร้อมกับผู้ปกครองที่คนใดคนนึงถือ Swiss Travel Card เด็กก็ไม่เสียจนอายุครบ 16 ปี

ครั้งที่ 2 สำหรับทริปสวิตเซอร์แลนด์ เน้นเที่ยวเมืองเล็กๆที่เหมาะกับเด็กน้อย วัย 5 ขวบ

สำหรับทริปนี้ของเราเนื่องจากว่าเป็นครั้งที่ 2 ที่เรามาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ รอบแรกเรามาเที่ยวเก็บเมืองใหญ่ๆที่ต้องไปมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็น Zurich , Luzern , Interlaken , Jungfrau, Zermatt , Geneva แต่ทริปนี้จะเป็นทริปสำหรับเด็กน้อย โดยเฉพาะ เราเลยหาเมืองที่ไม่ใช่เมืองใหญ่มาก แต่ว่ามีกิจกรรมสำหรับเด็ก หรือว่ากิจกรรมที่ลูกสามารถไปด้วยได้

มีวีซ่าเช้งเก้น 3 ปี เลยไม่ต้องทำวีซ่า

เราทำวีซ่ากันไว้ตั้งแต่ก่อนโควิด รอบนั้นได้วีซ่ามา 3 ปีและวีซ่ายังเหลืออยู่ เลยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับทำวีซ่าในทริปนี้ของทุกคนในครอบครัว แต่ถ้าใครยังไม่มีวีซ่า ก็จะเพิ่มค่าวีซ่าไปอีกประมาณ 3000 บาท ++

ไม่ได้เปลี่ยนที่พักบ่อย พักอย่างน้อยเมืองละ 2 คืน

บ้านเราจะเป็นประเภทที่จะไม่เปลี่ยนที่พักบ่อยแบบทุกคืน เพราะด้วยความลำบากในการย้ายกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ เราเลยจะจองที่พักอย่างน้อยเมืองละ 2 คืน ส่วนการเดินทางเราจะใช้วิธีการนั่งรถไฟไปเที่ยวในเมืองที่ใกล้เคียงแทน เราเคยแชร์วิธีการเลือกโรงแรมสำหรับการเที่ยวต่างประเทศของบ้านเราไว้แล้ว สามารถหาอ่านได้ตามลิงค์นี้เลย

สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปสวิตเซอร์แลนด์

สรุปแล้วค่าใช้จ่ายทริปนี้ของเราทั้งหมดไปที่ 215,865 บาท เลขเหมาะกับการเอาไปซื้อลอตเตอร์รี่มากเลย จำนวนนี้รวมสำหรับบ้านเราทั้งครอบครัว 3 คนแล้ว ถ้าเฉลี่ยต่อคน ก็จะประมาณ 72,000 บาท (ไม่รวมค่าวีซ่า)

มีค่าอะไรบ้างเดี๋ยวเราจะมาบอกรายละเอียดให้ฟัง

ค่าตั๋วเครื่องบิน

รอบนี้เราใช้บริการการบินไทย เพราะว่าบินตรงถึงซูริคเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 -11.30 ชั่วโมง ไม่ต้องมาพะวงเรื่องกระเป๋าด้วย และอีกอย่างในที่สุด ช้านก็ได้ใช้ Travel Voucher ที่ได้มาตั้งแต่ทริปล่มรอบที่แล้ว ค่าตั๋วของเด็กกับผู้ใหญ่ก็จะต่างกันนิดหน่อยประมาณ 5 พันบาท เลือกที่นั่งติดกันได้เลย 3 คนพ่อแม่ลูกก็สะดวกดี ได้ราคานี้เพราะว่าจองล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปี 2022

ค่าโรงแรม

อย่างที่เราได้ให้ข้อมูลไว้ข้างบนว่า ทริปนี้เป็นทริปที่ 2 สำหรับการมาเที่ยวที่สวิตเซอร์แลนด์เพราะฉะนั้นเราจะเน้นเที่ยวเมืองเล็กๆที่เหมาะกับเด็กน้อยวัย 5 ขวบ แล้วใช้วิธีการนั่งรถไฟเอา เมืองที่เราไปพักจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีรถไฟหลายสาย เป็นเหมือนชุมทางรถไฟ ทำให้สะดวกในการเดินทาง

  • Chur (คูร์)
  • St. Gallen (ซังคท์กัลเลิน)
  • Rapperswill-jona (รัปเปอร์สวิล)
  • Winterthur (วินเทอร์ทัวร์)

โรงแรมที่เราเลือกจะบางโรงแรมแทบจะติดกับสถานีรถไฟ บางโรงแรมอาจจะต้องนั่งรถเมล์ไปหน่อย แต่ว่าห่างจากป้ายรถเมล์นิดเดียวไม่ลำบากในการลากกระเป๋า ต้องบอกก่อนว่าโรงแรมส่วนมากที่เราเลือกเน้นแค่นอน ไม่ได้แบบต้องการวิว เหมือนเวลาที่ไปเมืองที่สวยๆแบบ Zermatt หรือว่า Luzern เพราะฉะนั้นห้องก็จะธรรมดาทั่วไป เดี๋ยวจะมารีวิวแต่ละโรงแรมแยกให้ฟังอีกที

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ

ค่าอาหาร/ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

สำหรับทริปนี้ 3 คนพ่อแม่ลูก ทริป 11วัน 10 คืน เราหมดค่าอาหารค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวไปทั้งหมดประมาณ 1500 CHF (อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 38 บาท) รวมเป็นเงินทั้งหมดประมาณ 57,000 บาท ก็จะตกต่อวันประมาณ 5 พันกว่าบาท

อาหาร

มื้อเช้า เราก็จะเลือกกินง่ายๆ เพราะว่าส่วนมากจะถือขึ้นไปกินบนรถไฟ ก็จะเป็นกาแฟคนละแก้ว (กาแฟแก้วละประมาณ 3.5 CHF) ขนมปังง่ายๆใน COOP ส่วนลูกก็กินฮอทดอกบ้างแซนวิชบ้าง มื้อเช้าเลยจะเป็นมื้อเบาๆ

มื้อกลางวัน มื้อเย็น ก็จะแล้วแต่เมืองที่เราไป ส่วนมากเราจะกินอาหารอิตาเลียน เพราะว่าลูกชายชอบพวกอาหารเส้นๆ มีบางมื้อที่นอกใจไปกินเบอเกอร์ หรือพวกอาหารแม็กซิกันบ้าง เบียร์นี่แทบไม่ขาดเลยถ้านั่งร้านอาหาร เพราะว่าราคาพอๆกับน้ำอัดลม แล้วจะเลือกอะไร ก็ต้องเลือกเบียร์ไหม

ซุปเปอร์มาเก็ตคือแวะทุกวัน ซื้อขนมให้ลูกชายเผื่อนางหิวตอนกลางคืน ซื้อน้ำรสชาติใหม่ๆลองกิน ซื้อเบียร์แปลกๆ มาให้ลอง

ทริปนี้ที่น่าจะหมดไปเยอะก็น่าจะเป็นค่าไอติม เพราะว่า 11 วัน ลูกก็คือกินไอติมไปทั้งหมด 24 แท่ง มีตั้งแต่ไอติมในตู้ เริ่มจากราคา 1.2 CHF ไปจนถึงไอติมแบบโคน เริ่มต้นที่ราคาประมาณ 3.5 CHF น่าจะหมดกับไอติมไปหลายพันอยู่

ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว

รอบนี้ค่าสถานที่ท่องเที่ยวจะหมดไปกับรถไฟขึ้นภูเขา Muottas Muragl , ค่าเข้าไปที่ทะเลสาบ Caumasee , ค่าขึ้นกระเช้าที่ Chur บางทีก็ใช้ Swiss travel Pass เป็นส่วนลดได้ บางที่ก็จ่ายราคาเต็ม แล้วก็มีพวกค่าเข้าสวนสัตว์ Science Swiss center ซึ่งค่าเข้าตามสถานที่ต่างๆก็อยู่ที่เราจะวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ซึ่งมันจะปรับเพิ่มรถตามแพลนที่เราเที่ยวเลย

เอาเป็นว่าเรื่องกินเรากินแบบไม่ได้ประหยัดมาก ไม่ได้อด คืออยากกินอะไรก็แวะกินเลย เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวก็เหมือนกัน เราถือว่าไหนก็มาแล้ว ก็ต้องไปให้คุ้ม คิดว่าไม่ได้จะมาซ้ำในที่ที่เดิมอีกเร็วๆนี้แน่นอน ถ้ามาถึงที่แล้วไม่ได้เข้าไปก็แอบเสียดาย ถ้าสมมติอยากประหยัดงบประมาณ ส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนที่จะสามารถประหยัดได้พอสมควร

ค่า Swiss Travel Pass

เราชั่งใจระหว่าง Swiss Travel Pass กับ Half fare price ว่าจะเอาอะไรดีกว่ากันนะ แต่ด้วยความที่ Half Fare price เราต้องซื้อตั๋วสำหรับทุกทริปการเดินทาง มันทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และ อีกอย่างทริปนี้เราไม่ได้ขับรถเลย ใช้การเดินทางด้วยรถสาธารณะล้วนๆ เลยทำให้เราตัดสินใจที่จะซื้อ Swiss Travel Pass สำหรับทริปนี้ เพราะเป็นบัตรใบเดียวที่ทำให้เราเดินทางได้ทั่วสวิตเซอร์แลนด์ ไม่ต้องเสียเวลาในการซื้อตั๋วเดินทาง

เราซื้อแบบเดินทางต่อเนื่อง 15 วัน ซื้อผ่าน KKday ช่วงที่มีโปรลด 5% ถ้าซื้อผ่าน App แต่มันเคยมีโปรอื่นที่ลดกว่านี้นะ ไปตามส่องกันได้เรื่อยๆ ถ้าซื้อผ่าน KKDay จะได้ตั๋วเป็นแบบ digital ก็ใช้จากในมือถือในการสแกน QR Code ได้เลย แต่ถ้าใครถนัดจะใช่เป็นกระดาษก็ได้ เค้ามีส่งเมลล์มาเป็นไฟล์ PDF เหมือนกัน

เราแชร์เกี่ยวกับ Swiss Travel pass ว่ามีแบบไหนบ้างแล้วก็มีตารางเปรียบเทียบราคาไว้ให้แล้ว เดี๋ยวแปะลิงค์ไว้ที่ได้ล่างให้

ค่าประกันการเดินทาง

ครอบครัวเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับประกันการเดินทางมาก เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แล้วอย่างที่ทุกคนรู้ว่าค่ารักษาพยาบาลที่ต่างประเทศจะมีราคาที่แพงมาก แม้ว่ามันจะเหมือนกันจ่ายทิ้งไปทุกทริป เราก็ทำประกันการเดินทาง ซึ่งวงเงินประกัน หรือว่าบริษัทที่จะซื้อก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย

สำหรับคนที่ต้องขอวีซ่าเชงเก้นด้วย อาจจะต้องดูว่าประเทศนั้นๆ ระบุวงเงินประกันสำหรับการเดินทางไว้ที่เท่าไหร่ เพื่อให้เข้ากับเงื่อนไขในการขอวีซ่า

สรุปแล้วทริปนี้ของบ้านเรา 3 คน พ่อ แม่ ลูก ก็หมดกันไปประมาณคนละ 71,955 บาท หรือจะเอาแบบเลขเต็มๆก็คนละ 72,000 บาท (ไม่รวมค่าทำวีซ่า) เพราะว่าเรามีวีซ่าอยู่แล้ว เอาจริงๆ ค่าใช้จ่ายหลักเลยคือค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าSwiss travel pass ส่วนค่ากินค่าเข้าสถานที่ต่างๆ ก็อยู่ที่ไลฟ์สไตล์การเที่ยวของแต่ละคนเลย อาจจะมากกว่าหรือว่าน้อยกว่านี้ก็ได้ ลองเอาไปเป็นแนวทางในการคำนวนงบประมาณดู

อันนี้ที่เราบอกไว้ ว่าเราเขียนเกี่ยวกับบัตร Swiss Travel Pass ไว้แล้วไปลองหาอ่านดูได้เลย ว่าบัตรแบบไหนที่เหมาะกับแผนการเดินทางของเรา


Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple

Website :  https://travelling-as-a-couple.com/

Instagram : Travelling As A Couple