เมืองเบิร์น มีอะไรดี??? 

Bern (เบิร์น) เมืองหลวงของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองมรดกโลก โดย UNESCO
จาก Interlaken เราสามารถนั่งรถไฟมาถึงเมืองหลวงแห่งนี้ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที
ที่นี่เป็นเมืองหลวงที่แตกต่างจากที่เราคิดมาก ก่อนที่จะได้มาเที่ยวที่ประเทศนี้ เราเข้าใจมาตลอดว่าเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือ Zurich (ซูริค) ไม่ก็ Geneva (เจนีวา) ที่เป็นเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย และเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญมากมาย แต่ที่ผิดคาดพอหาข้อมูลจริงๆแล้ว เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ กลับเป็นเมืองเก่าจากยุคกลาง อย่าง เมือง Bern (เบิร์น)
ตัวเมือง Bern (เบิร์น) ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางประเทศ ที่มีแม่น้ำ Aare (อาเรอ) โอบล้อมไว้ทั้ง 3 ด้าน
คำว่า Bern นั้นมากจากคำว่า “Baren” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “หมี” หรือ “Bear” ในภาษาอังกฤษ ชื่อนี้นั้นได้มาจากที่สมัยก่อน ผู้ครองเมืองนี้ได้ออกไปล่าสัตว์ และกล่าวว่าจะตั้งชื่อเมืองตามชื่อสัตว์ที่พบและล่าสำเร็จ แล้วสัตว์ที่ได้มาคือ หมี จึงทำให้เป็นชื่อเมืองจนถึงทุกวันนี้ และจึงใช้หมีเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองอีกด้วย
สวนหมี หรือ Barengraben (บาเรนกราเบิน)
สัญลักษณ์ของเมือง Bern (เบิร์น)
สวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
เราใช้ความพยายามอย่างมากในการสอดส่องมองหาน้องหมีแต่ละตัวที่ซ่อนอยู่ แต่มองอยู่นานก็ไม่เห็นน้องหมีมาปรากฏตัวซักที สายตาพลันเหลือบไปเห็นจอกล้องวงจรปิดทีติดไว้ แหม่ น้องหมีทุกตัวกำลังนอนหลับสบายในคอกของตัวเอง จึงไม่ได้ออกมาในส่วนของอาคารด้านนอก ให้เราได้ยลโฉมกัน
เราเลยได้แต่ดูบ่อหมีที่เป็นส่วนจัดแสดง มีรูปปั้นหมี ให้ได้ไปถ่ายรูปเล่นแทนน้องหมีตัวจริง ที่หลับสบาย
แม่น้ำอาเรอ (Aare)
แม่น้ำอาเรอ (Aare) อยู่ติดกับสวนหมีเลย ตอนที่ได้อ่านชื่อแม่น้ำนี้ครั้งแรก ก็ไม่รู้ว่าจะออกเสียงยังไงเลยลองหาข้อมูลดู การออกเสียงของแม่น้ำแห่งนี้นั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละที่ บ้างที่ก็เรียกแม่น้ำนี้ว่า “แอร์” บางที่ก็เรียกว่า “อาเร” หรือ “อาเรอ” แต่ทั้งสามชื่อที่ได้กล่าวมานั้นคือแม่น้ำสายเดียวกัน
แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำที่โอบล้อมเมือง Bern (เบิร์น) ไว้ทั้ง 3 ด้าน ถือว่าเป็นเมืองที่มีชัยภูมิที่ดี
ถ้าได้เห็นแม่น้ำนี้ของจริง จะต้องบอกได้ว่า เป็นแม่น้ำที่สวยมาก แม่น้ำค่อนข้างไหลเชียวแรงตลอดเวลา สีของแม่น้ำนั้นเป็นสีเขียวอมฟ้า แบบสีเทอร์ควอยซ์ น้ำที่ไหลผ่านใสสะอาดมาก
แค่ได้นั่งเล่นๆชมวิวแม่น้ำก็เพลินแล้ว
หอนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ Zytglogge (ไซท์ล็อค)
หอนาฬิกาแห่งนี้มีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรม มีนาฬิกาโบราณตั้งอยู่ทั้ง 2 ด้าน ด้านนึงจะเป็นนาฬิกาที่เป็นเข็มธรรมดา ซึ่งด้านล่างของหน้าปัดนาฬิกาแบบเข็มนี้จะมีนาฬิกาขนาดเล็กอีกเรือนนึง ซึ่งจะแสดง เวลา วัน เดือน ปี และจักรราศี ส่วนนาฬิกาอีกด้านนึงจะเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1530
ไฮไลท์ที่จะต้องรอชมนั้นจะอยู่ที่ทุกๆ 5 นาทีก่อนครบรอบ 1 ชั่วโมง ก็จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน
น้ำพุโบราณรอบเมืองเบิร์น
Credit Picture : http://www.buckettripper.com/
ที่เมืองเบิร์น จัดว่ามีบ่อน้ำพุโบราณที่สวยงามที่สุดในสวิส เป็นบ่อน้ำพุในยุคกลาง ประมาณศตวรรษที่ 14-15 ที่ต่อท่อมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อมาเก็บไว้ให้คนในเมืองได้ดื่มกิน และถือเป็นต้นแบบของน้ำประปาในยุคต่อๆมา
ในกรุงเบิร์นจะมีบ่อน้ำพุหลายๆแบบ เช่นน้ำพุแซริงเงิน เป็นรูปปั้นหมีใส่ชุดเกราะถือธง หรือจะเป็น น้ำพุนักรบ น้ำพุโมเสส และอื่นๆ อีกมากมายรอบๆ เมืองเบิร์น
เอาเป็นว่าไม่ต้องเดินหา เดินไปเรื่อยๆ เราต้องเจอบ้างซักอันแน่นอน
Munster Cathedral มหาวิหารมีนสเตอร์
Credit Picture : http://www.susanneangst.com/Bern/Munster/Munster_images.htm
มหาวิหารมีนสเตอร์ เป็นหอคอยที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปชมทิวทัศน์บนหอคอยได้ แต่เดี๋ยวก่อน!! อยากขึ้นไปชมวิวสวยๆ ก็เดินบันไดวนไปค่ะ สูงอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าแลกกับวิวที่สวยงามของเมืองเบิร์นแล้วก็น่าจะคุ้มค่าที่จะเหนื่อยอยู่
การเข้าชมวิหารสามารถเข้าได้ฟรี แต่ถ้าขึ้นหอคอยสามารถใช้ Swiss Pass เป็นส่วนลดได้
Zibelemärit หรือ เทศกาลหัวหอมพื้นบ้านดั้งเดิม
ใครจะไปคาดคิดว่าเราจะมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลที่ 1 ปีจะมีครั้งเดียวของเมือง Bern (เบิร์น) เทศกาลนี้คือ Zibelemärit หรือ เทศกาลหัวหอมพื้นบ้านดั้งเดิม ทีจัดขึ้นในทุกๆวันจันทร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายน
งานนี้จัดกันกลางเมืองเลยจ้า ปิดถนนตรงสถานีรถไฟยาวไปเรื่อยๆ จัดเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีร้านที่จะมีร้านเกษตรกรนำหัวหอมมาประดิษฐ์เป็นพวงสวยงาม ทั้งเป็นพวงระย้า หรือเป็นช่อกลมๆ ประดับประตูบ้าน ยังมีการนำหัวหอมมาเพ้นท์เป็นรูปสัตว์ต่างๆ อีกด้วย คนในเมืองและต่างเมืองก็จะมารวมตัวกันอยู่บริเวณถนนตรงหน้าสถานีรถไฟ
ที่แปลกอีกอย่างในเทศกาลนี้คือจะมีการปากระดาษ เป็นการละเล่นของวัยรุ่นที่นี่ เหมือนสงกรานต์บ้านเราที่มีการสาดน้ำ ที่นี่เปลี่ยนเป็นการปากระดาษ โดยจะเอากระดาษหลากสีมาปาใส่กัน ดีกว่าบ้านเราคือปาแล้วไม่เปียก แถมยังมีสีสันอีกด้วย แต่บางทีถูกปาโดยไม่ทันตั้งตัวก็มีเข้าปาก เข้าตากันบ้าง
ถ้าใครไปในช่วงนั้นแล้วอยากเล่นก็ได้ สามารถหาซื้อกระดาษหลากสีได้ ในราคาถุงละประมาณ 3 ฟรังก์
และยังมีอาหารที่ทำจากหอมอีกมากมาย แต่ที่นิยมคือ พิซซ่าหอม ที่ภาษาที่นี่เค้าเรียกว่า Zwiebelkuchen (ซวีเบลคูเคิ่น) ที่ไม่มีซอสมะเขือเทศ เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในช่วงเทศกาลนี้เป็นอย่างมาก กินคู่กับไวน์หรือเหล้าร้อนๆ
Credit Picture : http://america.pink/zwiebelkuchen_4918163.html
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารต่างๆ มาเปิดกันตลอดสองข้างทาง ยั่วยวนใจมาก แต่คนก็แน่นแทบจะทุกร้านเช่นกัน ร้านไหนดีร้านไหนเด็ดดูได้จากปริมาณคนที่มุงกันอยู่หน้าร้าน
อีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่มาเมือง Bern
__________________________________________
สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple
Website : https://travelling-as-a-couple.com/
Instagram : Travelling As A Couple