Geneva !!! ที่นี่มีอะไรดี ?? 

Geneva (เจนีวา) หรืออาจจะเรียกในภาษาฝรั่งเศสว่า “Geneve” (เฌอแนฟว์)
มีพื้นที่ติดกับประเทศฝรั่งเศสและอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ดังนั้นภาษาพูดและวัฒนธรรมของที่เมืองเจนีวานี้จะออกไปทางฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องว่าเป็น เมืองนานาชาติ หรือ Global city เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นสหประชาติ องค์การอนามัยโลก(WHO) กาชาดสากด และอื่นๆ อีกมากมาย
การเดินทางในเจนีวา
ที่นี่มีระบบขนส่งมวลชนครบครัน
- รถไฟ สะดวกสบายมาก เพราะรวดเร็ว ตรงเวลา ขบวนรถไฟที่ออกค่อนข้างถี่ ตารางรถไฟเป็นระบบ สามารถโหลด app มาใช้ในมือถือได้
- รถบัส เราใช้บริการรถบัส จากโรงแรมมาที่สถานีรถไฟทุกวัน แต่ความยากมันอยู่ตรงครั้งแรกที่หาป้ายรถเมลล์ เราต้องขึ้นให้ถูกฝั่ง เพราไม่งั้นจะไปคนละทิศเลย
แต่ไม่ต้องกลัวที่ป้ายรถเมลล์มันจะมีบอกว่าป้ายนี้รถเมลล์สายอะไรผ่านบ้าง แล้วสายนั้นจะวิ่งไปทางไหน อ่านดีๆ ไม่หลงแน่นอน
- Tram ระบบขนส่วนนี้ ส่วนมากจะวิ่งผ่านเมืองหรือแหล่งช๊อปปิ้ง ข้อควรระวังคือเวลาที่ Tram วิ่งมันเงียบมาก เพราะฉะนั้นเวลาเดินผ่านรางของ Tram กรุณามองดีๆ ก่อนข้าม
ระบบขนส่งทั้งหมดที่กล่าวมา บัตรเบ่งอย่าง Swiss Pass ก็สามารถใช้บริการได้หมด สะดวกมากจริงๆ
ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva)
เราเดินทางมาจาก Zermatt มาที่ Geneva วิวข้างทางทำให้เราร้อง “ว้าววว” “โอ้โห้” ตลอดทาง ภาพทะเลสาบที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งเวลาที่แสงของพระอาทิตย์สะท้อนลงบนผิวน้ำ สร้างความระยิบระยับสวยงามจับตามาก ฉากหลังของทะเลสาบคือเทือกเขาแอลป์ เมื่อทะเลสาบและเทือกเขาแอลป์มารวมอยู่ในภาพเดียวกัน วิวข้างทางจึงสวยงามราวกับภาพวาด ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง
ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) หรือชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลมอง (Lac Léman) มีลักษณะเป็นวงพระจันทร์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิส โดยพื้นที่ของทะเลสาบส่วนใหญ่อยู่ในประเทศสวิส และมีบางส่วนอยู่ในประเทศฝรั่งเศส มีพื้นที่ราวๆ 582 ตารางกิโลเมตร
ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามจนได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส “
ความพิเศษของทะเลสาบเจนีวาคือ
>> เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิส
>> จัดได้ว่าใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้น ในประเทศฮังการี
>> เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญของสวิส คือเมืองเจนีวา
น้ำพุเจ็ตโด (Jet D’Eau) หรือ น้ำพุจรวด
น้ำพุที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Geneva
ถ้าจะให้บอกเป็นตัวเลข น้ำพุแห่งนี้มีความสูงถึง 390 ฟุต ส่งน้ำครั้งละ 500 ลิตรต่อวินาที พุ่งทะยานขึ้นไปบนอากาศที่ความสูง 140 เมตร ด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง พูดเป็นตัวเลขซะเยอะ ลองมาดูคลิปภาพเคลื่อนไหวว่ามันพุ่งสูงแค่ไหน
วัตถุประสงค์จริงในการสร้างน้ำพุแห่งนี้ครั้งแรกไม่ได้สร้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์แต่อย่างใด แต่จริงๆ แล้วมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยในการลดแรงดันน้ำของเมืองและผันน้ำขึ้นไปใช้จากทะเลสาบในปี 1886 แต่กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนเมือง Geneva ชื่นชอบที่จะมาถ่ายรูปกับน้ำพุแห่งนี้ จนทำให้น้ำพุแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ในการท่องเที่ยวของเมือง Geneva
** น้ำพุแห่งนี้จะเริ่มเปิดประมาณ 10 โมง จนถึงประมาณ 5 ทุ่ม แต่ถ้าวันไหนมีลมแรงเค้าจะไม่เปิดน้ำพุ ต้องกะวันดีๆ ถ้าไม่อยากพลาดสัญลักษณ์ของเมือง Geneva แห่งนี้
อนุสาวรีย์บรุนชวิก (Mausolee du Duc De Brunswick)
ไม่ไกลจากน้ำพุเจ็ตโดจะมีอนุสาวรีย์บรุนชวิก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพพระเจ้าชาร์ลที่ 2 ดยุคแห่งบรุนชวิก เป็นอนุสาวรีย์ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม
ล่องเรือทะเลสาบเจนีวา
ถ้าอยากดื่มด่ำกับทะเลสาบเจนีวาแบบจุใจ แนะนำให้ไปล่องเรือทะเลสาบเจนีวา ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยเรือออกจากท่า Geneva Mont Blanc และมีเส้นทางไปยัง Lausanne (โลซานน์)
แต่เดี๋ยวก่อนรอบของเรือมีไม่บ่อยนัก แค่วันละ 2 รอบ ต้องเช็คเวลาเดินเรือดีๆ ยิ่งหน้าหนาวบางทีเรืออาจจะหยุดให้บริการ
Cathedrale St.Pierre (มหาวิหารแซงต์ปิแอร์)
Credit Picture : https://commons.wikimedia.org
มหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์หรือโบสถ์เซ็นต์ปีเตอร์ อยู่ในเขตเมืองเก่า เป็นวิหารที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมหลายสมัย มีบันได ให้ได้ไต่ขึ้นไปยังหอคอยเพื่อให้เราได้ชมทิวทัศน์ในมุมสูงของเมืองเจนีวา
Shopping in Geneva
ที่เจนีวาจะมีห้าง ร้านค้าเรียงรายให้เราได้เสียเงินกัน ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์หรู อย่าง Louis Vuitton , Prada , Gucci ถ้าเป็นสาวกนาฬิกา ก็มีร้านนาฬิกาสารพัดยี่ห้อให้ได้เลือกซื้อกัน ที่เจนีวานั้นเป็นบ้านเกิดของนาฬิกาสุดหรูอย่าง Patek Philippe ที่ถือว่าเป็นนาฬิกาที่หรูหราและแพงที่สุดในสวิส
สำหรับสาวกกาแฟไม่ควรพลาดถ้าไปเที่ยวสวิส ก็คือเจ้า Nespresso กาแฟที่บรรจุในแคปซูล ที่มีกิตติศัพท์ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติกาแฟ ที่สวิสราคาขายถ้าคิดเป็นแคปซูลจะราคาถูกมาก ไม่ถึง 20 บาทต่อแคปซูล
Nepresso เป็นกาแฟที่ผลิตโดย Nestle มีทั้งหมด 16 สี แบ่งตามรสชาติ แล้วบางครั้งจะมีพวกรุ่น Limited Edition ออกมาบ้างในแต่ละโอกาส
ในส่วนของรสชาติ ปกติเราเป็นคนกินกาแฟ แต่ไม่ได้ละเมียดละไมลงdetail ว่ากาแฟแต่ละชนิดเป็นไง มีโอกาสไปลอง เจ้า Nespresso ก็เพราะมีคนฝากซื้อ ร้านเค้าจะให้เราชิมฟรี ตอนที่เค้าทำนี่คือกลิ่นกาแฟหอมฟุ้ง รสชาติอร่อย กลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟติดจมูกมาก
ข้อเสียคือมันต้องชงคู่กับ Nespresso Machine เท่านั้น คือมันก็มีเครื่องชงกาแฟ ที่รุ่นเล็กลงมาหน่อย แล้วราคาก็ไม่แพง แต่จะให้แบกไปก็ไม่ไหว กินกาแฟสดแถวบ้านแทนไปก่อนแล้วกัน
แต่ถ้าใครมีเครื่องอยู่แล้วก็แนะนำให้ซื้อแคปซูลกาแฟกลับไป เพราะมันคุ้มมากจริงๆ
มีดพกหรือมีดพับสวิส (Swiss Army Knife)
สุดยอดของฝากและของที่ระลึกยอดนิยมที่ขาดไม่ได้ เจ้ามีดพกที่แสนจะธรรมดานี้ มีความสามารถรอบตัว ด้วยความที่เป็นมีดพับเอนกประสงค์ สามารถใช้งานได้หลายอย่าง ตามแต่รุ่นที่จะเลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น มีด ไขควง ที่เปิดขวด กรรไกร ที่เปิดไวน์ ตะไบ กรรไกรตัดเล็บ และอื่นๆอีกมากมาย ถ้าอยากได้มีดที่เอนกประสงค์มากรวมทุกๆอย่างอยู่ในอันเดียว ขนาดของมันอาจจะหนามาก และตามมาด้วยราคาที่แพงมาก ท้ายที่สุดแล้วก็ควรเลือกที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้
บางร้านมีบริการสำหรับสลักชื่อลงบนตัวมีด หรือใบมีดก็ได้ แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ตอนที่เราไป เราเลือกมีดพับที่ตัวมีดเป็นไม้ เลยทำให้ต้องสลักชื่อลงไปบนใบมีด โดนไปเต็มๆจ่ายเพิ่มไปประมาณ 10 CHF (Rate 1 CHF=38 โดยประมาณ)
ถ้าจะถามว่าจะหาซื้อมีดพกได้ที่ไหนบ้าง เอาเป็นว่าเดินไปที่ไหนก็เจอดีกว่า เมืองทุกเมือง ถนนเกือบทุกถนนต้องมีร้านที่ขายเจ้ามีดพก Swiss Army Knife นี้
ยี่ห้อที่เป็นที่นิยม และเป็นที่รู้จัก คือ Victorinox ถ้าคนที่ใช้มีดพก ส่วนมากต้องรู้จักยี่ห้อนี้ เพราะว่าเป็นยี่ห้อที่ดังมาก
เริ่มผลิตครั้งแรกสำหรับใช้ในกองทัพสวิสเมื่อปี 1891 และพัฒนาจนมาใช้คำว่า “Swiss Army knife” จนชื่อเสียงโด่งดังไปถึงกองทัพอเมริกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยความทนทานของมีดพกในแบบฉบับของสวิสนี้ ทำให้ได้รับการกล่าวขานจากชาวอเมริกันว่า มันไม่ได้เป็นแค่มีด แต่มันคือเพื่อน (A friend , not just a knife)
มีดพกสวิสของแท้ ต้องมีตราโล่และกากบาทที่มีลักษณะคล้ายกับธงชาติสวิสเซอร์แลนด์
ทุกวันนี้เจ้ามีดพกสวิสนี้ได้กลายเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของนักเดินทาง หรือ นักผจญภัยทั่วทุกมุมโลก เพราะว่าสารพัดประโยชน์ของมัน มีดพกในแบบฉบับของสวิสนี้ได้กลายมาเป็นสินค้าที่สร้างความภาคภูมิใจและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศสวิส นอกเหนือจากนาฬิกา
__________________________________________________
สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple
Website : https://travelling-as-a-couple.com/
Instagram : Travelling As A Couple