ทำไมต้องมาเที่ยว “สเปน”

เอาจริงๆ กว่าจะมาจบที่สเปน ตอนนั้นเลือกไว้หลายที่มาก ไม่ว่าจะเป็น อิตาลี ปราก เยอรมัน (Frankfurt Berlin ….) แต่สุดท้ายก็มาจบที่สเปน

ผู้ชายหล่อ!!!

เอาตามความจริงที่เลือกอยากแรกเลย เพราะว่ามีน้องที่รู้จักไปเที่ยวสเปนแล้วบอกว่า “พี่…. ผู้ชายสเปนคืองานดีมากเลย” สิบปากว่าหรือจะสู้ไปพิสูจน์เอง ถึงแม้ทริปนี้จะพกสามีไปด้วยก็ไม่ได้เป็น อุปสรรคอะไรเลย เราแค่มองเป็นอาหารตาเฉยๆ

พิสูจน์มาแล้วว่า 70% ของผู้ชายสเปนดูดี แม้กระทั่งคนขับรถเมลล์ ความเห็นส่วนตัว หนุ่ม Barcelona ดูดีกว่า หนุ่ม Madrid ไม่เชื่อต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง ด้านล่างเป็นตัวอย่างหนุ่ม Barcelona ที่แอบส่องมา

ถ้าใครชอบตี๋ เกาหลี ตาตี๋ ข้อนี้ก็ตกไปนะคะ เพราะว่าหนุ่มสเปนจะเป็นสไตล์คมเข้ม ไม่ได้แบบฝรั่งจ๋า

Seafood and Spanish Cuisine

อาหารสเปนมีความหลากหลายให้เราได้ลิ้มลอง

Sangria (แซงเกรีย)

✔️ เครื่องดื่มยอดฮิตของสเปน ที่มาทั้งทีจะต้องลอง ไม่งั้นจะเหมือนพลาดอะไรไป
🍷 ส่วนผสมหลักคือ ไวน์ แล้วหั่นผลไม้นานาชนิดใส่ลงไป อาจจะผสมเหล้าหรือบรั่นดี

💢 ไม่มีสูตรตายตัว ว่าต้องใส่ผลไม้อะไร เหล้าอะไร เลย เลยทำให้แซงเกรีย ในแต่ละที่มีรสชาติที่ต่างกันออกไป
‼️ รสชาติแซงเกรียจะออกหวานๆ ทำให้เราเมาโดยไม่รู้ตัว
💲 ราคาของแซงเกรียมีตั้งแต่ 2 Euro ไปจน เกิน 10 Euro แล้วแต่ร้านที่ไปกิน แต่ที่แน่ๆ แพงกว่าเบียร์แน่นอน

Churros ชูโรส

หรือคนไทยจะรู้จักกันว่า “ปาท่องโก๋สเปน” เป็นอาหารว่างของคนสเปน ที่ทำมาจากแป้งโดนัทผสมไข่และเนย แล้วใส่ถุงบีบลงทอดในกระทะร้อนๆ กรอบนอกนุ่มใน จริงๆมันมีหลายร้านที่ขายชูโรส แต่จะลองทั้งทีแนะนำให้ลองร้านเก่าแก่ร้านดังของที่นี่ คือร้าน Chocolateria San Gines

Jamon Iberico : Iberian Ham (แฮมดิบ)

อาหารที่ต้องลองเมื่อมาสเปน มีทุกร้าน มีทุกห้าง คือฮิตมากจริงๆ มีทั้งหมูและเนื้อ ราคาไม่ถูกนะจ๊ะ แต่คือกินเพลินมากจริงๆ กินคู่กะขนมปังร้อนๆ นี่อย่างอร่อย มันเหมือน Parma Ham แต่สำหรับเรา Jamon เค็มกว่า เลยเหมาะกะการกินคู่ขนมปัง ไม่ก็ทำเป็นทาปาส

Calamari ปลาหมึกทอดกรอบ

หลายๆร้านในสเปน จะมี Calamari ให้ได้ลองกัน แต่สำหรับเราเราชอบ ร้าน La Campana ที่สูด ร้านเล็กๆ ที่ได้รีวิวดีงามจากเวปท่องเที่ยวหลายๆเวบ Calamari กรอบนอกนุ่มใน และสดมากก ที่สำคัญคือราคาไม่แรง เริ่มต้นที่ 3 Euro คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

Paella ปาเอยา

ปาเอยา หรือว่า ชื่อเล่นที่เรารู้จักกันก็คือ “ข้าวผัดสเปน” เนื้อสัตว์ที่ใส่ในปาเอยาจะหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ ปลา ไส้กรอก ซีฟู๊ด กุ้ง หอย ปลาหมึก บ้างร้านอาจจะผสมหมึกของปลาหมึกลงไปด้วยก็จะทำให้ปาเอยากลายเป็นสีดำ แปลกหน่อย ก็จะเป็นพวกเนื้อกระต่าย เนื้อหอยทาก ปาเอยาหาได้ง่ายมากตามร้านทั่วไป หรือว่าในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มีขาย

อาหารทะเล

สเปนเป็นประเทศที่ติดทะเล โดยเฉพาะแถวๆ Barcelona ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจะมีอาหารทะเลให้เลือกหลากหลายมาก ถ้าใครเลือกที่พักที่มีครัวแล้ว แนะนำว่าให้หาซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือตลาดแล้วซื้ออาหารทะเลสดๆมาทำกินเอง

Clay fish กุ้งตัวจิ๋วที่อยากลองมานานแล้ว ทั้งหมดหม้อนี้ซื้อมาในราคาประมาณ 4 Euro

 

หมดจานนี้จ่ายไปในราคาประมาณ 400 กว่าบาท ชอบกุ้งตรงกลางมากกว่าไม่รู้ว่าเค้าเรียกกุ้งอะไร แต่ว่า Clay fish ส่วนตัวคิดว่ามันตัวเล็กไป แล้วเปลือกค่อนข้างแข็งแกะยาก เนื้อน้อยไม่อร่อยเท่าที่ควร

 

หอยนางรม เค้าเคลมว่ามาจากประเทศฝรั่งเศส มาแล้วก็ต้องลองจ๊ะ เค้ามีหอยประมาณ 3 ชนิดให้เลือก ซึ่งแต่ละชนิดจะมีราคาและรสชาตที่ต่างกัน

 

ราคาถูกที่สุดในจานนี้คือ 2.8 Euro จริงๆมีถูกกว่านี้แต่เราเลือกหอยขนาดกลาง แพงที่สุดคือราคา 4.50 Euro บีบมะนาวนิดนึง คือดีเลย เพราะว่าหอยสดมากกกก

 

Lobster!!! เมืองไทยนี่คือขายกิโลละ 2 พันอัพ แต่ว่าที่นี่มีตั้งแต่ราคาตัวละ 300 บาท จนถึงตัวใหญ่เบิ้มราคาประมาณตัวละ 500 ถือว่าคุ้มมากจริงๆ ทริปนี้เรากิน Lobster ไปเป็น สิบตัวเลย

 

กุุ้งอันนี้คืออร่อยมาก แต่เราไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่ากุ้งอะไร ราคาก็แรงมากเช่นกัน จานนี้ราคา 20 Euro แลกกับความอร่อยถือว่าคุ้มมมม

 

ร้านขายอาหารทะเลย ที่เราจะสามารถพบได้ทั่วไปในสเปน

 

วางแผนมาจากบ้านแล้วว่าต้องมากินอาหารทะเลที่สเปน แต่กินอาหารทะเลจะอร่อยไม่ได้เลย ถ้าขาดน้ำจิ้มซีฟู๊ด แนะนำว่าให้พกไปด้วย ใครชอบยี่ห้อไหนก็ตามสะดวกเลย ไม่มีน้ำจิ้มที่ไหนแซ่บเท่าน้ำจิ้มซีฟูีดบ้านเราอีกแล้ว ในรูปเป็นน้ำจิ้มซีฟู๊ดยี่ห้อ รสนาง ราคาค่อนข้างแรง แต่ว่าความอร่อยเราต้องยกให้ อีกขวดที่เอาไปคือ ซอสพริก เพราะว่าที่โนันมีแต่ซอสมะเขือเทศ แต่ซอสเค้าไม่อร่อยเท่าซอยพริกบ้านเรา อันนี้เอาไว้จิ้มพวกไส้กรอก หรือว่าเนื้อสเต็ก

 

Shopping!!!

ใครๆก็บอกว่า Zara ที่สเปนถูกมากกกก แต่นี่คือเถียงขาดใจเลย มาเจอของจริงก็ไม่ได้ถูกขนาดนั้น ไปช่วงวันแรกๆ ที่ไม่ได้ลดราคา นี่คือพอๆกะที่ไทยเลย มาวันหลังๆที่เริ่ม Sale ราคาค่อยรับได้หน่อย แต่พอSale ปุ๊บ แถวห้องลองยาวทันที จิตใจต้องเข้มแข็งในการเข้าคิว ทั้งลองเสื้อ และ จ่ายเงิน

ใครที่จะมา Shopping brandname ถือว่าค่อนข้างคุ้ม ราคาของจะเท่ากันหมดในแทบยุโรป แต่จะมาตัดกันที่ Tax Refund เนี่ยแหละ

Standard VAT Rate ของสเปนจะอยู่ที่ 21% แต่พอทำ Tax Refund จริงๆ ได้ไม่ถึงหรอก จะมีหักค่าธรรมเนียมโน่นนี่ สมมติถ้าซื้อ Louis Vuitton จะได้ Tax Refund อยู่ที่ประมาณ 14-15% ก็คุ้มอยู่นะ

Tax refund ของสเปนจะมี 2 เจ้าที่เห็นบ่อยๆ

  • Global blue บางประเทศจะต้องเสียค่าธรรมเนียมใบเสร็จละ 3 Euro แต่ที่สเปนไม่หักตอนrefund หรือนางอาจจะหักไปแล้วเป็นค่าธรรมเนียมตั้งแต่แรก

 

  • Premier Tax อีนี่โคตรโหด มันให้เราคืนเป็นเงิน Local ซึ่งพอ Convert เงินกลับมาเป็นเงินไทย ได้แบบ 1 Euro 29 บาท บ้าที่สุด หายไป 10 บาทต่อ 1 Euro เลย เคืองมากจริงๆ

 

การเดินทางสะดวก

การเดินทาง ทั้งระหว่างเมือง ก็จะมี รถไฟ Renfe ซึ่งสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ผ่านทางเวบไซด์ ทำให้สะดวกรวดเร็วในการเดินทาง และเป็นการการันตีได้ว่าเราจะมีที่นั่งแน่นอน

ถ้าเป็นการเดินทางในเมือง เช่น Madrid หรือ Barcelona จะมี Tourist Card ซึ่งสามารถใช้ได้โดยไม่จำกัดจำนวนเที่ยว และสามารถใช้ได้กับการขนส่งเกือบทั้งหมดในเมืองนั้น โดยจะขายตามจำนวนวัน อย่าง Madrid เราซื้อ 5 วันราคา26.80 Euro ซึ่งถือว่าคุ้ม เพราะว่าเราขึ้นรถไฟ ลงรถเมล์ตลอดทั้งวัน

 

Tourist Card ใน Madrid ตั๋วเป็นกระดาษแข็ง ดูดีเลย ในรูปแบบ 5 วัน ราคา 26.80 Euro ถือว่าคุ้ม

 

ด้านหลังตั๋ว Tourist card จะบอกว่ามีการคมนาคมอะไรบ้างที่เราสามารถใช้ได้ ซึ่งก็เกือบทั้งหมดใน Madrid

 

สาย Metro ใน Madrid จะมีหลายสายมาก เดินทางแรกๆ จะงงนิดนึง ว่าจะขึ้นชานชาลาไหนดี แต่อยู่ไปซัก 1 วัน จะเริ่มคุ้นเคย

 

บัตร Hola ใน Barcelona เทียบกับ Madrid แล้วบัตร Hola ดูกระโหลกกะลามาก เพราะว่าเป็นแค่กระดาษ และแถบแม่เหล็กก็เสียง่ายมาก ยังใช้ไม่ทันครบ 5 วัน เราก็ต้องไปเปลี่ยนที่สถานีรถไฟ ไปเค้าว่าบัตรเสีย เจ้าหน้าที่ก็จะออกให้เราใหม่ แต่วันหมดอายุก็ยังเป็นวันเดิม

 

อากาศช่วงหน้าร้อน ค่อนข้างใกล้เคียงเมืองไทย

สเปนจะอยู่มาทางตะวันตกของยุโรปแล้วอากาศเวลาหนาวจะไม่ได้หนาวมาก แต่ถ้าร้อน อากาศก็จะเกือบ 40 องศากันเลยทีเดียว  ที่สเปนจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดู

  1. ฤดูหนาว ( พ.ย. – ก.พ.)
  2. ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.-พ.ค.)
  3. ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.)
  4. ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-ต.ค.)

เราไปประมาณปลายมิ.ย. เรียกได้ว่าร้อนจนจักแร้เปียก บางวันอุณหภูมิพุ่งขึ้นไปแตะทะปรอทเกือบ 40 องศา ฝรั่งนี่ก็  Happy เฟร่อ ออกมานอนอาบแดดกันให้ตัวไหม้เกรียมไปเลย ถ้าไปหน้าร้อนแบบเรา แนะนำให้พก แว่นกันแดด ครีมกันแดด หมวก ไปด้วย ครีมกันแดดนี่โคตรจำเป็นไม่งั้นจะไหม้โดยไม่รู้ตัว

 

 

Not Safety!!!

ข้อดีมาแล้ว ข้อเสียก็ต้องมา โจรค่อนข้างเยอะเลย โดยเฉพาะเมืองที่เป็นเมืองท่องที่ยวที่ต้องระวังให้ดี น่าจะพอๆ กับฝรั่งเศสเลย แนะนำว่า

  • อย่าพกของเยอะ เพราะเราจะดูแลกระเป๋าไม่ได้ เปิดโอกาสให้โจรมาขโมย
  • อย่าใส่ของมีค่า เพราะจะล่อตาล่อใจโจรให้มาหา
  • ห้ามวางของไว้ห่างตัว มันจะหายโดยไม่รู้ตัว
  • อย่ายืนติดประตูรถไฟ พยายามเข้าไปในมุมที่มันล้วงเราไม่ได้
  • ที่สำคัญ เวลาขึ้นรถสาธารณะ กอดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา พวกนี้คือทำงานเป็นทีม เราก็เกือบไปเหมือนกัน

มาเตือนไม่ได้แปลว่าจะไม่ให้ไปเที่ยวสเปนนะ ไปได้ แต่แค่ต้องเพิ่มความระมัดระวังแค่นั้นเอง ยังไงเราก็ว่าสเปนก็ยังเป็นประเทศที่น่าเที่ยวสำหรับเราอยู่


สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้

Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple

Website :  https://travelling-as-a-couple.com/

Instagram : Travelling As A Couple

Line: @Travelling_couple หรือ กดที่นี่เลย http://line.me/ti/p/%40travelling_couple