ทะเล๊ ทะเล อยู่ๆก็อยากไปเที่ยวทะเล แต่ไม่อยากไปทั้งหัวหิน และพัทยา
แล้วจะไปที่ไหนดี ถ้าไม่ไป 2 ที่นี่ สุดท้ายก็มาจบที่นี่ X2 Kuiburi ขับรถเลยมาจากหัวหินนิดนึง ถ้านับเวลาที่เดินทางออกจากกทม. น่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ไกลหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ลองไปเที่ยวที่ใหม่ๆบ้าง
การเดินทางมาที่นี่ถ้าไม่มีรถส่วนตัวอาจจะลำบากนิดนึง เพราะทางเข้าอยู่ค่อนข้างลึก
ระหว่างทางเข้ารีสอร์ท
ถึงแล้วววว ทางเข้ารีสอร์ท
ล๊อบบี้ของโรงแรม ดูเรียบง่ายมาก มีจุดเด่นของ Lobby ที่นี่คือมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พนักงานให้บริการอย่างดี มีผ้าเย็นไว้ให้เช็ดหน้า และก็น้ำสัปปะรดแสนอร่อยเป็น welcome drink ไว้คอยให้บริการแขกที่เข้ามา check in
ทางรีสอร์ทมีจักรยานไว้ให้บริการด้วย แต่…….. เราไม่สามารถขี่เล่นภายในรีสอร์ทได้นะ ต้องขี่ออกไปข้างนอกอย่างเดียว ซึ่งแดดข้างนอกก็ร้อนมาก กิจกรรมนี้เลยพับเก็บไปตั้งแต่ยังไมได้เริ่มขี่เลย
ได้เวลาไปชมห้องพักของเราแล้วววววว ทางเดินไปห้องพักร่มรื่นมาก เหมาะแก่การมาถ่ายรูป
ห้องพักเราเป็น Deluxe Pool Villa พร้อมอาหารเช้า หมายเลขห้องเบอร์ 15 โดยเลขห้องอยู่บนพื้นทางเข้า เอกลักษณ์ของที่นี่คือ ผนังหิน ทีดูสวยงาม ไม่ได้แค่ประดับข้างนอกนะ ผนังห้องด้านใน ก็เป็นหินเหมือนกัน
บ้านพักสร้างเหมือนกล่องสีเหลี่ยม ผนังด้านในห้องพัก ทุกด้าน เป็นผนังหิน การตกแต่งห้องลงตัวพอดี มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ธรรมดา มีลูกเล่นซ่อนอยู่ในแต่ละจุด ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ห้องน้ำกว้าง จนเหมือนจะเป็นห้องนอนอีกห้องได้เลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งไดร์เป่าผม แชมพู สบู่ อ่างล้างหน้ากว้างสามารถแปรงฟัน 2 คนได้แบบสบายๆ มีม้านั่งให้เราสามารถวางเสื้อผ้าแต่งตัวได้ บนม้านั่งจะมีตะกร้าที่ใส่ผ้าเช็ดตัวสำหรับว่ายน้ำอยู่ นอกเหนือจากผ้าเช็ดตัวปกติ
มาถึงส่วนอาบน้ำ จะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง Outdoor หลังคาเปิดโล่ง และก็ Indoor ทั้งสองฝั่งจะเป็นแบบฝักบัวทั้งคู่ แต่เสียอย่างเดียวคือฝั่ง Indoor นั้นไม่ได้มีกระจกมากั้น ทำให้เวลาที่เราอาบน้ำ น้ำอาจจะกระเด็นมาบนพื้นห้องน้ำได้
ในห้องพักจะมีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง หันหน้าออกไปทางสระว่ายน้ำ ด้านหลังเตียงนอนจะเป็น เคาเตอร์บาร์ มีเครื่องชงกาแฟ และก็ตู้เย็น และก็ตู้เสื้อผ้าที่ไม่สูงมาก
นอนบนเตียงชิลๆ ชมวิวสระว่ายน้ำ
เดินออกไปด้านนอก จะเจอเก้าอี้ผ้าใบหันหน้าเข้าสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ด้านข้างสระว่ายน้ำ จะเป็นศาลา มีโซฟาให้เราได้นั่งชิลๆ แต่นั่งได้แค่ตอนกลางวันนะ เพราะว่าตอนกลางคืนไม่ไหว ยุงเยอะมาก
ชมห้องพักไปแล้ว ก็ไปชมบรรยากาศรอบๆรีสอร์ทกันบ้าง



เนื่องจากบริเวณใกล้ๆ รีสอร์ทแทบจะไม่มีร้านอาหาร อะไรที่ใกล้ๆเลย ถ้าขับรถออกมาก็ต้องไปไกลพอสมควรดังนั้นการเลือกกินอาหารของห้องอาหารโรงแรมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับคนขี้เกียจออกไปไหนอย่างเรา





กินคาวแล้วไม่กินหวานก็ยังไงอยู่ จัดไปของหวาน ไลน์อาหารอาจจะไม่เยอะมาก แต่ก็อาหารอร่อยเกือบทุกจานที่เรากิน


คืนที่สอง เราเลือกกินเป็น A la carte แทน ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งด้านนอกบ้าง บรรยากาศดี๊ดี ถ้าไม่มีเจ้ายุงตัวร้ายมารบกวน ยุงที่นี่โคตรดุ กัดเจ็บสุด ตอนแรกว่าจะดื่มด่ำกับบรรยากาศนานๆ ซะหน่อย ทนไม่ได้เลย เพราะว่าโดนกัดจนพรุนมาก
โชคดีของเราอีกแล้ว ที่วันนี้โรงแรมมี Promotion เป็น Mojito Day คือถ้าใครมากินข้าวก่อน 6.30 จะได้กิน Mojito ฟรีไม่อั้น จนกว่าจะถึงเวลา 6.30 ของฟรีพี่ไม่พลาด จัดไปเบาๆ คนละ 4 แก้ว เล่นเอามึนไปเหมือนกัน
มาเที่ยวทะเลถ้าไม่ได้มานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้น ก็คงจะเหมือนไม่ได้มาทะเล

ชมพระอาทิตย์เสร็จก็ได้เวลากิน กิน แล้วก็ กิน อย่างที่บอกห้องอาหารของโรงแรมนั้นมีที่เดียว เพราะฉะนั้นห้องอาหารที่ให้บริการอาหารเช้าก็คือห้องอาหาร 4K ที่เดิมนั้นเอง
ไลน์อาหารมีไม่เยอะ มีซุ้มไข่ ทั้งไข่ดาว ไข่ข้น ออมเล็ต แล้วแต่จะเลือก นอกจากนี้ยังมีข้าวต้ม อันนี้ชอบ ทั้งข้าวต้มกุ้งแล้วก็ข้าวต้มหมู
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆกับ X2 Kuiburi
วัดทุ่งมะเม่า ก่อนที่จะไปเที่ยวเราเลือกที่จะแวะทำบุญวัดเล็กๆ ด้านหน้าทางเข้ารีสอร์ท วัดนี้มีพระจำวัดแค่ 3 รูป มีน้องหมาในวัดอีกเพียบเลย รู้สึกดีมาก ที่เราได้มาทำบุญในที่ที่เค้าได้ใช้ของที่เราทำสังฆทานจริงๆ ทำบุญเสร็จหลวงพี่ให้พระมา 2 องค์ไว้ให้บูชา

สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple
Website : https://travelling-as-a-couple.com/
Instagram : Travelling As A Couple