Don’t Miss in Zurich : เมืองซูริคมีอะไรดี ???

Zurich !! เมืองนี้มีอะไรดี ?? 

หลายๆคน รวมถึงเราอาจจะเคยเข้าใจว่า Zurich เป็นเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

แต่จริงๆ แล้วนั้น เมืองซูริค (Zurich) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มิใช่เมืองหลวง และยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นศูนย์รวมของหลายๆสิ่งไม่ว่าจะเป็น ศูนย์กลางการทำมาค้าขายทางเศรษฐกิจ การเงินการธนาคาร การคมนาคมขนส่งที่ทันสมัย และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) และทะเลสาบซูริค (Zurich lake)

แม้ว่า Zurich นั้นจะไม่ได้มีความโดดเด่นในเรื่องธรรมชาติ แต่ Zurich เองก็จัดได้ว่าเป็นเมืองที่คึกคักและมีชีวิตชีวา เป็นเมืองใหญ่ที่มีความทันสมัย เป็นศูนย์กลางการคมนาคม เศรษฐกิจ มีถนนสายช๊อปปิ้งที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก

เมืองซูริคมีอะไรดี ไปดูกัน

Zurich Hauptbahnhof 

 

เฮ้ย แกร มันก็แค่สถานีรถไฟธรรมดา มันควรค่ากับการมาตรงไหน

จะบอกให้ว่าที่นี่ เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังเมืองต่างๆมากมาย ถ้ามาที่นี่กรุณาศึกษาชานชาลาดีๆ เพราะว่ามันมีเยอะมาก มีรถไฟเข้าออกจากชานชาลาตลอดเวลา

ภายในสถานีโอ่โถงมีหลายชั้น มีร้านค้า ร้านอาหารให้เราได้ไปฝากท้องกัน นอกจากนี้ยังศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว เผื่อเราต้องการความช่วยเหลือ

ก่อนเดินออกไปจากสถานี แนะนำให้เงยหน้าไปมอง สาวสวยคนนี้หน่อยนึง นางห้อยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางหลังคาห้องโถงใหญ่กลางสถานี นางผู้นี้คือ ประติมากรรม “นางฟ้า” (Guardian Angel) เป็นสัญลักษณ์ของสถานีที่นักเดินทางจะรู้จักกันดี

 

แม่น้ำลิมมัต (Limmat River) และ ทะเลสาบซูริค (Zurich Lake)

 

Zurich  เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) และ ทะเลสาบซูริค (Zurich Lake)

เราสามารถที่จะเดินชมความงามของแม่น้ำและทะเลสาบเรียบสองฝั่งได้ เพราะว่ามีทางเดินที่ทำให้เราสามารถเดินเลียบแม่น้ำได้แบบชิลๆๆ

หากอยากชมอาคารริมฝั่งแม่น้ำ หรือว่าโบสถ์ใหญ่ เราก็สามารถที่จะล่องเรือชมความงามได้ที่ท่าเรือ Walche-Brucke

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้

http://www.zvv.ch/zvv/en/travelcards-and-tickets/fares/haeufige-fragen.html

ข้อควรระวังคือ เรือไม่ได้วิ่งทุกเดือนจะหยุดวิ่งในช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือน พฤศจิกายน – มีนาคม

เพราะฉะนั่นก่อนไปควรเช็คดูก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เสียเที่ยว

 

ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse)

ถนนช๊อปปิ้งสุดหรูของเมือง ที่อยู่ไม่ไกลจาก Zurich Hauptbahnhof

สองข้างทางของถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านสุดหรู ห้างสรรพสินค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย รวมไปถึงร้านขายนาฬิกา โดยเฉพาะร้านแบรนด์ดังระดับโลก ก็มารวมตัวกันอยู่บนถนนแส้นนี้

อยากช๊อปปิ้งแบรนด์เนม ขอแนะนำห้างที่ได้ชื่อว่า The House of Brand ที่มีชื่อว่า Jelmori ที่เป็นห้างที่รวมสินค้าระดับแบรนด์เนมมาไว้ที่นี่

จัตุรัสพาราเดอพลัตซ์ (ParadePlatz)

จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17

ปัจจุบันนั้นจัตุรัสนี้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์

ลินเดนฮอฟ (Lindenhof)

 

ย่านนี้เป็นที่ตั้งของป้อมปราการสมัยโรมัน บนเนินเขากลางเมืองบริเวณริมแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งอยู่บนชัยภูมิที่ดี ที่สามารถมองเห็นเมืองซูริคได้รอบทิศ ทั้งวิวเขตเมืองเก่า หรือจะเป็นวิวแม่น้ำลิมมัต (Limmat River)

 

โบสถ์ Fraumunster 

โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 9 โดย Emperor Ludwig (Louis)  มีความโดดเด่นเรื่องงานกระจกสี (Stain Glass) ที่สวยงาม ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินที่มีชื่อว่า มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall)

เปิดให้เริ่มเข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00 น. แต่ว่าโบสถ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายรูปด้านในได้

 

นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นจากหอคอยปลายแหลมที่มีนาฬิกาเรือนใหญ่ประดับอยู่ทั้งสี่ด้าน

 

หอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์ (St. Peter)

Credit ภาพ : http://vizts.com/st-peters-church-zurich/

เนื่องจากไม่ได้ถ่ายภาพมา จึงต้องไปขอยืมภาพมาจากใน Internet

โบสถ์ St. Peter นี้เป็นโบสถ์ที่มีหน้าปัดหน้านาฬิกาที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในยุโรป มีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 8.7 เมตร และถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในเมืองซูริค แต่ตัวโบสถ์ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักเมือเทียบกับโบสถ์เฟรามึนสเตอร์

มีรูปแบบสถาปัตกรรมแบบโกธิคโบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบบารอค

 

โบสถ์กรอสมุนเตอร์ (Grossmunster)

โบสถ์หอคอยคู่ ถือได้ว่าเป็นโบสถ์และวิหารที่เก่าแก่ของเมือง อาจจะถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คหลักของซูริคเลยก็ว่าได้ เพราะหอคอยที่สูงระฟ้า ที่มองเห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล ตั้งอยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำลิมมัต (Limmat River)

 

ที่นี่เป็นหนึ่งในสามโบสถ์ที่สำคัญในซูริค ภายในมีงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมตกแต่งที่สวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงด้านบนของหอคอยได้อีกด้วย

 

ย่านนีเดอร์ดอร์ฟ (Niederdorf)

ย่านนีเดอร์ดอร์ฟ (Niederdorf) ที่นี่เป็นเขตหมู่บ้านโบราณอีกแห่งหนึ่งของเมือง  และเป็นถนนช้อปปิ้งอีกสายนึงของซูริค ที่นี่เราสามารถเดินชมบ้านเรือน อาคารสไตล์ยุโรปโบราณได้ นอกจากนีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบบองเก่า งานฝีมืองานศิลปะ ต้องไม่พลาดที่จะมาเดินสำรวจที่เมืองนี้

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือจะเป็นขนมต่างๆ ให้เราได้ลอง ได้นั่งพักเหนื่อยกันได้

ร้านที่โดนใจเรามากเมื่อมาเดินย่านนี้คือร้านขายเครปธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาบนถนนเส้นนี้

ตอนแรกก็ไม่มีใครสนใจ แต่สังเกตว่า ทำไมคนที่นี่ถึงซื้อกันเยอะจัง จะไม่ลองคงไม่ได้ เลยต้องลองซะหน่อย  รสชาติมีหลายแบบให้เลือกสรร จะคาวหรือหวานตามใจชอบเลย

แต่เครปที่นี่ไม่ได้มาเป็นสามเหลี่ยมแบบที่เราคุ้นเคยกัน มันจะพับมาเป็นสี่เหลี่ยมใช้มีดตัดกินเอา

จัดชิ้นแรกมาลองซะหน่อย Spinach (ผักขม)+ Cheese

ยืนดูคนขายทำแบบติดขอบกระทะมาก พอเค้าสาดแป้งเครปลงไป กลิ่นหอมของแป้งเครปนี่ลอยมาเตะจมูกกันเลยทีเดียว

พอแป้งเครปได้ที่ คนทำก็พรมชีส ลงไปเต็มที่มาก

รอชีสละลายเยิ้มๆ แล้วต่อด้วยผักขมที่สับมาแบบละเอียด

บอกได้คำเดียวว่าอร่อยมากกก ตัดเครปออกมานี่ชีสเยิ้มออกมาเลย

คือแป้งของที่นี่จะเหนียวกว่าเครปที่เคยกินที่เมืองไทย รสชาติกลมกล่อมเข้ากันมาก ชีสเยิ้มๆ ยืดๆ กินตอนร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเลย

กินหมดทั้งชิ้น ลืมอ้วนกันไปเลย กินไปก่อน ลดทีหลังเอาล่ะกัน

อีกรสชาติที่ลองคือ กล้วยช็อคโกแลต แป้งเครปที่ได้นุ่มมาก กินกับกล้วยและช็อคโกแลตกำลังพอดีเลย ไม่หวานไป

พูดแล้วก็อยากกลับไปกินอีก น้ำลายไหลเลยยย

ย่านนีเดอร์ดอร์ฟ (Niederdorf) ในยามค่ำคืนนั้นจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เพราะเป็นแหล่งบันเทิงยามราตรี มีร้านอาหาร ผับ บาร์ มากมาย และเป็นย่านที่ปิดดึก ทำให้เราสามารถมีเวลาดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่

 

ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market)

สำหรับใครที่จะไปเที่ยวยุโรปในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงปีหใม่ ตามเมืองใหญ่ๆ จะมีการจัดงานต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส มีการประดับประดาไฟที่สวยงาม รวมถึงตกแต่งเมืองเพื่อต้อนรับคริสต์มาส นอกจากนี้ยังมีอีกไฮไลท์นึงที่ไม่ควรพลาดเลยคือ ตลาดคริสต์มาส หรือ Christmas Market ให้เราได้เดินชม เดินช๊อปปิ้งกัน ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่มที่ไว้ดื่มแก้หนาว ของประดับตกแต่งบ้านในช่วงคริสมาสต์ เครื่องประดับ ของฝากและของใช้ต่างๆ

 

 

ในตลาดนัดคริสมาสต์เราได้เห็นการย่างปลาแซลมอนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนเป็นการเอาปลามาอังไฟไว้เฉยๆ

ร้านนี้เจ้าของร้านใจดีให้เราลองชิมเนื้อปลาแซลมอน ขอบอกว่ามันอร่อยมาก เนื้อปลายังชุ่มฉ่ำ ได้รสชาติของปลาแซลมอนแท้ๆ

แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ไปอุดหนุนร้านนี้เพราะว่าเราโดนร้านอื่นดักไปก่อนหน้านี้ จนหนังท้องตึงมากแล้ว

อีกร้านในตลาดนัดคริสมาสต์ที่น่าสนใจ คือ ร้านขายซี่โครงย่าง

ร้านนี้ทำเตาย่างเป็นรูปรถไฟใหญ่เลย เรียกความสนใจให้คนได้เดินไปชม
แถมซี่โครงย่าง พอเปิดประตูเตามาเท่านั้นแหละ กินหอมฟุ้งยั่วน้ำลายได้อย่างดีเลย

 

อีกร้านที่คนเยอะมาก มุงกันเยอะ ไทยมุงอย่างเรามีหรือจะพลาด

รีบเดินเข้าไปส่องเลยว่ามันคือร้านอะไร ควันฟุ้งมาจากร้านเลย มันคือร้านไส้กรอกย่าง นั้นเอง

สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อวัว ก่อนที่จะซื้ออาจจะต้องสอบถามคนขายให้ดีๆ เพราะว่าไส้กรอกที่นี่ส่วนมากจะมีส่วนผสมของเนื้อวัวด้วย

ขอบอกว่า รสชาติเด็ดมาก แต่คนที่ไม่ชอบกินเค็ม อาจจะบอกว่ามันเค็มไปนิดนึง ต้องทำใจว่าอาหารที่นี่มักจะติดเค็ม

มีลานไอซ์สเก็ตด้วยนะจ๊ะ แต่ว่าไม่ได้ลองหรอก เพราะว่าเล่นไม่เป็น กลัวจะล้มไม่เป็นท่า

 

นอกจากนี้ช่วงคริสต์มาสมักจะมีเครืองดื่มไว้คลายหนาวให้เราได้ลองมากมายที่ประทับใจคือ Jack Daniel’s Winter Jack เป็นเหล้าที่ผสมแอปเปิ้ล กับ Cinnamon รสชาติจะออกหวานนิดๆ ที่สำคัญมันเป็นเหล้าร้อน

รสชาติของเหล้าชนิดนี้จะออกหวานๆนิดนึง

การกินเหล้าร้อนๆ ในบรรยากาศหนาวๆ มันโคตรเข้ากันเลย ทำให้ร่างกายอบอุ่น มิน่าคนที่ถึงนิยมกินเหล้าอุ่นๆ แบบนี้

แต่ในส่วนของราคานั้นก็ถือได้ว่าแพงอยู่ แก้วเล็กสุดคูณออกมาเป็นเงินไทยก็ประมาณ 200 กว่าบาท แต่ก็คุ้มค่ากับการได้ลอง

 

หลังจากเจอที่นี่แล้วก็ไม่เจอ Jack Daniel’s Winter Jack ที่เมืองอื่นอีกเลย เสียดายได้ลองไปแก้วเดียวเอง

 

เลือกกันได้ยัง ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างในซูริค จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลายที่ให้ได้เที่ยวในซูริค แต่อันนี้คัดเอามาเฉพาะที่เด็ดๆของเมืองซูริคจริงๆ