Hello วันนี้เค้าจะแนะนำที่เที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมาก
นั่นคือ จังหวัดนครปฐม ….. คือทริปนี้ เน้นชิลๆ เน้นจิบกาแฟ เที่ยวไม่หนักมาก
เราออกจากกรุงเทพฯเช้าหน่อย แบบไม่เกิน 8 โมงกำลังดี รถไม่ติด

จุดหมายแรกของเราคือร้าน Pomelo Cafe ที่นครชัยศรี
Pomelo Cafe อำเภอนครชัยศรี
ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงสวนส้มโอ เลยได้ชื่อน่ารักๆ ว่า Pomelo ที่แปลว่าส้มโอ ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ บรรยากาศดีเงียบสงบ ร้านอยู่ติดกับคลอง ความพิเศษของที่นี่คือ เราสามารถพายเรือชมสวนได้ แต่ด้วยความที่ไปเช้ามาก สติสตางค์ยังมาไม่ครบ ยังไม่พายดีกว่า

ส่วนโต๊ะที่จัดไว้ ก็หันหน้าเข้าชมสวนได้เลย เห็นเค้าพายเรือเก็บส้มโอในระยะที่ใกล้มาก


มาดูเรื่องของกินกันบ้าง ร้านนี้มีทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม และของหวาน ราคาจากป้ายที่เห็นไม่แพงเลย

เครื่องดื่มที่เค้าติดป้ายแนะนำเราไว้ มันชวนให้ลองมาก มันคือ “น้ำมะนาวโห่ปั่น” ถึงกลับต้อง search Google เลยว่าหน้าตาเจ้ามะนาวโห่เป็นไง

มาแล้วน้ำมะนาวโห่ของเรา รสชาติมันจะออกเปรี้ยวๆ กินไปครั้งแรกจะรู้สึกเฝือนๆ นิดนึง แต่กินไปเรื่อยๆ ก็สดชื่นอร่อยดี เหมาะกับการกินตอนอากาศร้อนๆ

อีกแก้วเป็นคาราเมลนมสด คาราเมลหอม ไม่หวานเกินไป

ต่อด้วยอาหารเช้า สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล รสชาติจัดจ้าน อร่อยมาก เลิฟเลย ตามมาติดๆ ด้วยไข่กระทะ หอมเนยมาก เครื่องไข่กระทะจัดมาแบบไม่มีกั๊ก อร่อยฟินไปเลย ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ค่าเสียหาย สองร้อยกว่าบาท ดีงามเฟร่อ

เจษฎาเทคนิคมิวเซี่ยม อำเภอนครชัยศรี

ใครชื่นชอบรถโบราณ รถหายาก หรือยานพาหนะแปลก หลากหลายชนิด จากทั่วทุกมุม แนะนำให้มาที่นี่ นอกจากรถยนต์ ยังมีรถชนิดอื่นๆ เช่น รถเล็ก รถการ์ตูน รถเด็กเล่น หรือจะเป็นยานพาหนะขนาดใหญ่ แบบเรือดำน้ำ เครื่องบิน หรือจะเป็นรถไฟ (จัดแสดงห่างจากตัวพิพิธภัณฑ์ ไปนิดนึง) ที่นี่ก็มีให้ชม
ที่สำคัญคือ เข้าฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เราต้องลงทะเบียนที่ด้านหน้า และรับรู้กฏของที่นี่ซึ่งไม่ยากเลย คือห้ามเปิดประตูรถ และห้ามขึ้นไปนั่งบนรถ




พระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม
กว่าจะมีถึงที่นี่ได้ หลงไปหลายรอบ Google Map ดันพาไปทางเข้าที่เค้าไม่ได้เปิดให้รถเข้าไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนเส้นทางยังไง ก็ยังจะให้เข้าประตูนี้ สุดท้ายก็เลยต้อง Search เป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ ถึงจะนำทางมาถูก เลยแวะหาอะไรกินข้างมหาวิทยาลัยก่อนเข้าไปซะเลย


อิ่มทองแล้วก็ชมวังต่อได้

ค่าเข้าชมวัง ผู้ใหญ่เสีย 30 บาท, เด็กนักเรียน – นักศึกษา 10 บาท, ชาวต่างชาติ 50 บาท
การแต่งกายต้องแต่งกายให้สุภาพ เสื้อเปิดไหล่ไม่ได้ ต้องใส่ขายาว ไม่อนุญาตให้ใช้ขาตั้งกล้อง (คืออีนี่แบกไป ต้องยัดลงไปในกระเป๋า ห้ามเอาออกมาให้เห็น หนักมากกกก) ใครที่แต่งกายไม่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะมีผ้าคลุมไหล่ ผ้าถุงไว้ให้เช่า

พระราชวังสนามจันทร์ค่อนข้างกว้างขวางมาก เราเริ่มจากการเดินวนขวา มาที่ พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ พระตำหนังสีไข่ไก่ ตัดกับหลังคาสีแดงดูโดดเด่นเป็นสง่า
การเข้าไปชมด้านในของพระตำหนักนี้ ต้องถอดรองเท้าและฝากสิ่งของรวมทั้งโทรศัพท์มือถือ ไว้ที่ล๊อคเกอร์ด้านหน้า และไม่อนุญาตให้มีการถ่ายรูปใดๆทั้งสิ้น

ด้านหน้าของพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ มีอนุสาวรีย์ “ย่าเหล” ตั้งอยู่
ย่าเหล ซึ่งเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของ รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เป็นที่โปรดปรานเป็นอย่างมาก แต่มันถูกลอบยิงตาย ทำให้รัชกาลที่ 6 เสียใจมาก จึงสร้างอนุสาวรีย์ย่าเหลขึ้นมา

เดินมาเรือยๆ จะเจอกับพระที่นั่งองค์ต่อมาคือ พระที่นั่งพิมานปฐม ซึ่งเป็นพระที่นั่งองค์แรกของพระราชวังนี้

การเข้าชมในพระที่นั่งพิมานปฐม เหมือนเดิมคือต้องฝากของทุกอย่างและต้องถอดรองเท้าไว้ด้านล่าง ห้ามมีการถ่ายรูปโดยเด็ดขาด
การเข้าชมจะแบ่งเป็นรอบๆ มีเจ้าหน้าที่พาเดินชมและอธิบายประวัติของห้องต่างๆให้ เช่น ห้องบรรทม ห้องสรง ห้องเสวย ห้องพระเจ้า ซึ่งเป็นหอพระที่มีความงดงาม และยังได้พาเราไปเห็นวิวที่สวยที่สุด ของพระปฐมเจดีย์ ซึ่งจะอยู่ตรงกับ เทวาลัยคเณศร์
ระหว่างพระที่นั่งพิมานปฐม จะมีทางเชื่อมชั้น 2 ไปยัง พระที่นั่งวัชรีรมยา พระที่นั่งที่มีรูปร่างคล้ายกับวัด เจ้าหน้าที่อธิบายว่า จริงๆ แล้ววังนั้นไม่ได้สร้างตามวัด แต่วัดต่างหากที่สร้างเลียนแบบวัง ด้วยการตกแต่งที่วิจิตรสวยงามของวัง เลยมีการสร้างวัดขึ้นมาเลียนแบบ

ไม่ไกลจากพระที่นั่งพิมานปฐมเราจะเห็น เทวาลัยคเณศร์ ตั้งอยู่ตรงกลางสนามหญ้าของพระราชวังสนามจันทร์ เป็นที่ประดิษฐานของพระคเณศร์ หรือ พระพิฆเนศ ที่เราเรารู้จักกัน ถือได้ว่าเป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการ ใครที่ทำงานเกี่ยวกับการแสดงศิลปะ จะรู้จักพระพิฆเนศเป็นอย่างดี

ก่อนจะออกไป ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าจะมีเรือนไทยตั้งอยู่ นั้นคือ พระตำหนักทับขวัญ

บรรยากาศรอบๆ พระราชวังสนามจันทร์
ลืมบอกไป ใครขี้เกียจเดิน เค้ามีรถกอล์ฟให้เช่านะ ราคาน่าจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 300 บาท
มาต่อด้วยที่สุดท้าย
ร้านคำนำ Book Art Cafe อำเภอเมืองนครปฐม
ร้านกาแฟเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในหลืบ คือซอยทางเข้าเล็กมาก แต่เข้าไปข้างในแล้วแตกต่างเลย ด้านในร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่หลายต้น


ผ่านทางเข้าเล็กๆ เข้ามาจะเห็นบ้านไม้เก่าแก่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น ความไม่ธรรมดาของบ้านไม้หลังนี้คือมันถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 จากข้างนอกที่มีความเป็นเมืองอย่างมาก พอเดินเข้ามาเจอบ้านไม้โบราณแบบนี้ ให้อารมณ์ที่เปลี่ยนไปจริงๆ ใครจะคิดว่ามีร้านกาแฟซ่อนอยู่ตรงนี้

“คำนำ” เป็นร้านหนังสือที่แปลกไม่เหมือนร้านหนังสือที่เห็นทั่วไป มีหนังสือให้เลือกหลายแนว นอกจากจะเปิดเป็นร้านหนังสือยังมีมุมเครื่องดื่มเล็กๆ ไว้คอยให้บริการ รสชาติดี ราคาเป็นมิตร








ถ้าอยากหนีความวุ่นวาย มาหาร้านกาแฟสงบๆ คนไม่เยอะ แนะนำที่นี่เลยตอบโจทย์ทุกอย่าง
จบแล้วสำหรับทริปนี้ ไปไม่เยอะ แต่อัดแน่นไปด้วยความสุขในทุกๆที่ที่เดินทางไป จริงๆแล้วอยากจะไปแวะพระปฐมเจดีย์ต่อ แต่ว่าเมฆฝนก้อนใหญ่นี่ทำให้คิดว่าถ้าแวะอีกที่ไม่น่ารอดน้องฝนแน่นอน ไว้คราวหน้าจะมาตามเก็บที่เที่ยวอื่นๆในนครปฐมมาฝากใหม่นะ
__________________________________________
สามารถติดตามพูดคุยกับเราได้ทางช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook : https://www.facebook.com/TravellingAsACouple
Website : https://travelling-as-a-couple.com/
Instagram : Travelling As A Couple